เคยคิดไหม ว่าตัวเองใจร้ายหรือใจดี?

สำหรับเราตอนเด็กจะรู้ว่าใครใจร้ายหรือใจดีก็ดูจากสิ่งที่เขาทำหรือพูดกับเรา

ครูคนนี้ใจร้ายเพราะชอบดุเราตอนท่องศัพท์ไม่ได้ หรือแม่ค้าคนนั้นใจดีเพราะชอบแถมขนมเบื้องให้

คนรอบตัวเราก็ค่อย ๆ ถูกแบ่งเป็นคนใจร้าย-ใจดี มีฝ่ายธรรมะ-อธรรม ชัดเจน เหมือนในการ์ตูนที่แหกขี้ตาตื่นมาดูทุกวันหยุด

แต่ถึงกระนั้นก็ไม่เคยเอาไม้บรรทัดนั้นมาประเมินตัวเองว่าเป็นคนใจร้ายหรือใจดี

เมื่อโตมาก็มีคำให้เลือกใช้อธิบายคนอื่นได้มากขึ้น

ป้านั่นขี้อิจฉา พี่คนนี้มีอารมณ์ขัน เถ้าแก่ร้านทองนั่นใจร้อน น้องคนนั้นละเอียดรอบคอบ

จากโลกที่เคยมีแต่ขาวกับดำก็กลายเป็นสีเทาเข้มเทาอ่อนสลับกันไป

คำพื้น ๆ อย่างใจร้าย ใจดี ก็ถูกเก็บเข้ากรุ นาน ๆ ทีจะได้ยินหรือได้ใช้

ก็เลยทำให้เราต้องเลิกคิ้วตอนมีคนบอกว่าเรา “ใจดีอะ” เมื่อสองปีก่อน

ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเก็บคำพูดนั้นมาคิดเยอะขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะอย่างที่บอกคือก่อนหน้านี้ไม่เคยนึกถึงความดีหรือร้ายของใจตัวเองมาก่อน หรือเป็นเพราะเราคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนดี อยู่ ๆ มาโดนแปะป้ายว่า “ใจดี” ก็เลยฟังดูพิลึก

หรือไม่ก็เพราะ… เราเป็นคนใจดีจริง ๆ … มั้ง?

ถ้าเป็นอย่างงั้นจริงก็คงดี เวลาแนะนำตัวจะได้บอกว่า

สวัสดี เราเลือดกรุ๊ปโอ ชอบไอติมรสช็อคโกแลต ที่บ้านมีผ้าม่านสีส้ม และเป็นคนใจดี

ยินดีที่ได้รู้จัก