กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีหมู่บ้านเล็ก ๆ
หลบซ่อนอยู่ในป่าลึก
ความแปลกประหลาดของหมู่บ้านนี้ คือชาวบ้านทุกคน
ล้วนเป็นแผ่นกระดาษมีชีวิต
มองไปทางไหนก็มีแต่กระดาษ
กระดาษเด็กตัวน้อยวิ่งเล่น กระดาษหนุ่มสาวออกไปหาของป่ามาเป็นอาหาร
กระดาษที่นี่ถูกพร่ำสอนตั้งแต่ยังเด็กว่า
ถ้าเรียนเก่ง ๆ จบไปจะได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังสือดี ๆ
นานเข้าอาจได้เลื่อนขั้นเป็นหน้าปก
เป็นความใฝ่ฝันที่ทำเอากระดาษตัวน้อย ๆ ตาลุกวาว
ทั้งหมู่บ้านก็อยู่กันมาอย่างนี้
จนกระทั่งสาคิดอะไรได้บางอย่าง
สาเป็นกระดาษสาวไฟแรง ซึ่งตอนนั้นสาทำงานเป็นหน้า 173 ให้กับหนังสือเล่มหนึ่ง
“เป็นหน้า 173 ก็ดีอยู่หรอก” สาพูดกับตัวเอง
หน้า 173 เป็นหน้าแรกของบทที่สี่ ถือว่าไม่เลวเลยสำหรับกระดาษอายุน้อย
“แต่มันก็เหมือนกับว่าเราเสียเวลาไปเป็นส่วนเล็ก ๆ ของหนังสือที่เราก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายนัก”
ทันใดนั้นความคิดบรรเจิดก็แล่นเข้าไปเปิดหลอดไฟเหนือหัวของสาดังปิ๊ง
“ทำไมเราไม่ออกมาเป็นปกหนังสือซะเองล่ะ! เป็นหนังสือแบบที่เราชอบ ถึงจะเป็นหนังสือบาง ๆ แต่เราก็จะพูดได้เต็มปากว่าเป็นหนังสือของเราเอง!”
ไม่รอช้า สารีบออกไปหากระดาษมากลุ่มหนึ่ง แปลงตัวเองเป็นปกหนังสือสวยงาม แล้วก็เย็บเล่มเข้าด้วยกัน
เป็นหนังสือเล่มเล็ก ๆ แต่สาก็มีความสุข
ความสำเร็จของสานั้นกระจายไปถึงหูของกระดาษหนุ่มสาววัยทำงานอย่างรวดเร็ว
เกิดเป็นแรงบันดาลใจให้กับหน้าหนังสือหลายเล่ม
“ขืนอยู่ไปแบบนี้เราคงได้เป็นหน้า 48 ไปตลอดชีวิต”
“เราจะถูกจดจำในฐานะปกหนังสือ ไม่ใช่หน้า 11 อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้แน่”
“ปกหนังสือน่ะเราก็เป็นได้ จะถูกตรวนอยู่กับหนังสือเก่า ๆ ไปทำไม”
หลอดไฟสว่างขึ้นบนหัวของกระดาษหลายแผ่น
ปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง
เหล่ากระดาษเริ่มออกมาเป็นปกหนังสือ ยิ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กระดาษอื่น ๆ อีกทอด
ปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง
กระดาษเหล่านั้นออกมาเป็นปกมากขึ้นเรื่อย ๆ
ปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง
จนหนังสือเดิม ๆ เริ่มบางลงอย่างเห็นได้ชัด
แม้แต่กระดาษหน้า 7 ในหนังสือของสาเองก็ขอออกไปเป็นปกหนังสือกับเขาด้วย
ปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง
กระดาษทุกแผ่นกลายเป็นปกหนังสือกันหมด
จนกระทั่งหมู่บ้านนั้นเต็มไปด้วยหนังสือ
หนังสือที่มีแต่ปก