1.

พบว่าเพลงที่ชอบฟัง ทั้งที่ซื้อมาเก็บไว้ก็ดี ที่ไปขวนขวายมาอย่างถูกกฏหมายก็ดี

ไม่ถูกกฏหมายก็… นั่นแหละ

ประมาณหนึ่งในสี่ เป็นเพลงประกอบหนัง ละคร และ/หรือซีรี่ส์ฝรั่ง

ก็ไม่แน่ใจว่าทำไมชอบฟังเพลงจากหนังละครเป็นพิเศษ

มาเดามั่ว ๆ ว่า เวลาฟังเพลงที่มาจากหนังเรื่องไหน เราก็จะนึกถึงฉากที่เพลงมันขึ้นมา ก็จะมีความรู้สึกร่วมไปกับเพลงนั้น ๆ ตาม

ประมาณว่าความรู้สึกจากหนังมันฝังเข้าไปในเพลง

2.

เคยอ่านความเรียงของปราบดา หยุ่น เรื่อง “นักดมหนังสือ” ในหนังสือรวมความเรียง “น้ำใส่กะโหลก” ยังจำได้จนถึงทุกวันนี้

ปดย. พูดถึงความรู้สึกในวัยเด็ก เมื่อเขานอนอยู่ในบ้านวันฝนตก และกลิ่นของหญ้าชื้น ๆ มันฝังลงไปในความทรงจำ เมื่อได้กลิ่นหญ้าหลังฝนทีไร เขาก็จะนึกถึงช่วงเวลานั้น เหมือนกับเวลาได้กลิ่นบุหรี่และโซฟาราคาถูก เขาก็จะนึกถึงตอนที่ไปหาพ่อในที่ทำงาน

พอมาชะโงกดูเงาตัวเอง (เก็ตปะ เพราะหนังสือชื่อน้ำใส่ก…. เออช่างเถอะ) ก็พบว่าเราก็มีกลิ่นที่ขุดความทรงจำในวัยเด็กขึ้นมาเหมือนกัน อย่างกลิ่นหญ้าที่ถูกตัดใหม่ ๆ เราก็จะนึกถึงสนามหญ้าตอนอยู่โรงเรียนประถม

บางทีถ้าได้กลิ่นฝุ่นหนา ๆ ในห้องที่ปิดมาหลายปี เราก็จะนึกถึงบ้านที่ต่างจังหวัด กับวัยเด็กที่ชอบแอบเข้าไปในห้องเก็บของแล้วหยิบตุ๊กตุ่นเซรามิกมาเล่น

1+2.

หรือว่าที่เราชอบเพลงประกอบหนัง ไม่ใช่เพราะเราชอบหนัง แต่มันทำให้เรานึกถึงช่วงชีวิตที่มีหนังเรื่องนั้นเข้ามาปน

เอ๊ะ ซีรี่ส์นี้ดูตอนเศร้า ดูแล้วก็น้ำตาคลอไม่หยุด

อ๊ะ หนังเรื่องนั้นเราดูตอนไปเดท

โอ้ว ละครเรื่องนี้นั่งดูทุกอาทิตย์ จะได้เอาไปคุยกับเพื่อน

เฮ้ย เพลงนี้มีคนส่งมาให้ฟัง บอกว่าเหมาะกับเราดี

โห หนังเรื่องนี้ดูกับเพื่อนวันนึงก่อนมันจะไปเรียนต่างประเทศ

อย่างรูปข้างบนเป็นปกอัลบั้มเพลง Forest Whitaker จากซีรี่ส์ How I Met Your Mother (ไว้วันหลังจะมาเขียนสดุดีความเจ๋งของ HIMYM)

พอฟังเพลงนั้น ๆ ก็จะนึกถึงอดีต — มันได้ฟีลน่ะ

ว่าแต่ที่เขียน ๆ มาเนี่ย ไม่รู้จะสรุปว่าอะไร (เป็นงี้ทุกที)

ไปนั่งฟังเพลงละ