กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว
มีเจ้าชายสามพี่น้อง อาศัยอยู่ในปราสาท
พระราชาเห็นว่าเจ้าชายทั้งสามยังเด็ก จึงสั่งให้อยู่แต่ในปราสาท
“พวกเราขอออกไปด้วยซี” ทั้งสามอ้อนวอนทุกครั้งที่พระราชาออกไปล่าสัตว์
จนวันหนึ่ง พระราชาเห็นว่าทั้งสามโตพอจะออกไปเผชิญโลกภายนอกได้
“วันนี้พ่อจะให้พวกเจ้าออกไปด้วย” พระราชาว่าอย่างนั้น เจ้าชายทั้งสามก็ดีอกดีใจ
เจ้าชายสามคนจึงเข้าป่า แล้วแยกกันไปคนละทาง โดยแต่ละคนมีอำมาตย์ติดตามไปด้วย
“ดูแลเจ้าชายให้ดี อย่าให้ละสายตาล่ะ” พระราชากำชับต่ออำมาตย์
เจ้าชายคนแรกเข้าป่าไป เจอกวางตัวหนึ่ง จึงถามอำมาตย์
“ท่านอำมาตย์ นั่นคือสัตว์หรือ”
“ใช่พ่ะย่ะค่ะ”
“สัตว์มันหน้าตาเป็นอย่างนี้เอง” เจ้าชายพยักหน้า
ขณะเดียวกัน เจ้าชายคนที่สองพบกับนกอินทรีบนต้นไม้
“นั่นใช่สัตว์หรือเปล่า ท่านอำมาตย์” เจ้าชายถามด้วยความตื่นเต้น
“นั่นคือสัตว์แน่แท้พ่ะย่ะค่ะ” อำมาตย์ตอบ
เจ้าชายคนสุดท้องเดินผ่านบ่อน้ำ เห็นปลาว่ายวนอยู่จึงนึกสงสัย
“ท่านอำมาตย์ นั่นสัตว์ใช่ไหม”
“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ” อำมาตย์ตอบด้วยความเอ็นดู
เมื่อหมดวัน พระราชาและคณะล่าสัตว์ก็กลับมาที่ปราสาท
เจ้าชายทั้งสามกลับมาเล่าเรื่องของตนด้วยความตื่นเต้น
“ฉันน่ะ เจอสัตว์ด้วยนะ สัตว์น่ะ มีสี่ขา มีเขาสวยงามมากเลย” คนพี่เล่า
“ฉันว่าพี่ผิดแล้วมั้ง สัตว์น่ะ มีสองขา บินได้ด้วย” เจ้าชายอีกคนกล่าว
“สัตว์อยู่ในน้ำต่างหากล่ะ ไม่มีขาซักหน่อย” เจ้าชายคนเล็กท้วง
…
นิทานเรื่องนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะสอนว่าอะไร
รู้แค่ว่า หลังจากที่ได้เจอสัตว์มากับตัวครั้งสองครั้ง
ก็พบว่า สัตว์มันมีหลายแบบ
บางครั้งก็คิดไม่ถึงว่าจะมีสัตว์แบบนี้บนโลกด้วย
บางตัวดุร้าย บางตัวขี้ตกใจ
บางตัวเห็นแวบเดียวก็หายไป
ก็เหมือนกับความ…
ไปคิดเอาเองละกัน
กระผมคงต้องขอตัวกลับปราสาท